SSI vs PADI vs NAUI สอนดำน้ำแต่ละที่ต่างกันอย่างไร

เรียนดำน้ำที่ไหนดี สถาบันไหนดี ที่ไหนสอนดำน้ำดี

ผู้ที่สนใจอยากเรียนดำน้ำ แต่พอหาข้อมูล แล้วเยอะไปหมด ทั้งเรียนค่ายไหน สถาบันไหน เรียนดำน้ำที่ไหนดี ดำน้ำราคาเท่าไหร่ ทางเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันสอนดำน้ำ และโรงเรียนสอนดำน้ำมาให้เพื่อนๆ ได้พิจารณากัน ว่าจะเลือกเรียนดำน้ำยังไง มาดูกันเลย เรียนดำน้ำที่ไหนดี

สถาบันสอนดำน้ำแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ถ้าอยากจะดำน้ำลึกแบกถังอากาศลงไปใต้น้ำ นักดำน้ำทุกคนจะต้องผ่านการฝึกปฏิบัติและสอบจากสถาบันสอนดำน้ำ (Diving Agency) เพื่อความปลอดภัย มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดำน้ำ สถาบันสอนดำน้ำสากลจากทั่วโลกมีเยอะมาก ในประเทศไทยมี 4 สถาบันหลัก ๆ ที่เป็นที่นิยมเรียนดำน้ำกัน ได้แก่ BSAC, NAUI, PADI, SSI ในตารางเปรียบเทียบข้างล่างจะแสดงชื่อคอร์สเรียน และการกำหนดความลึกของแต่ละระดับการเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อความเข้าใจความแตกต่างแต่ละสถาบันสอนดำน้ำให้ได้เข้าใจกัน

จะสถาบันไหนก็เหมือนกันขอให้ปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง

เมื่อคุณสมัครเรียนดำน้ำ ไม่ว่าสถาบันไหนก็เหมือน ๆ กัน ทุกสถาบันจะสอนให้คุณเข้าใจถึงหลักการหายใจของมนุษย์​ กฏแรงกระทำทางฟิสิกส์ แรงดัน ปริมาตร และปริมาตรของส่วนประกอบของก๊าซต่าง ๆ ใน 1 ชั้นบรรยากาศ การคำนวณแรงดันชั้นบรรยากาศ การคำนวณแรงดันใต้ดำน้ำที่เราได้รับเมื่อลงไปดำน้ำ การวางแผนการดำน้ำ การสร้างความเข้าใจ และการใช้งานอุปกรณ์ดำน้ำอย่างถูกต้อง และปลอดภัย การพักน้ำหลังจากการดำน้ำ โรคภัยอันเกิดจากการดำน้ำ แนวทางการพักรักษาตัวหลังจากเกิดโรคมาจากการดำน้ำ การเดินทางด้วยเครื่องบินหลังจากการดำน้ำ การเตะขาใต้น้ำ การลอยตัวให้เป็นกลางใต้น้ำ Neutral Buoyancy ฯลฯ โดยหลักปฏิบัติเหล่านี้ครูผู้สอนจะใช้เวลาสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติรวมทั้งสิ้น 2-3 ครั้ง หรืออาจจะมากกว่าในบางราย บางกรณี เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักดำน้ำ

NAUI (National Association of Underwater Instructors)

• ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1959 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา
• เป็นสมาคมที่ริเริ่มการดำน้ำแบบสันทนาการ ซึ่งมีการปรับรูปแบบวิธีการมาจากการฝึกทหาร
• NAUI พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนดำน้ำมากจาก US NAVY และเป็น Non-Organization ซึ่งเน้นให้ความรู้การดำน้ำอย่างปลอดภัย

PADI (Professional Association of Diving Instructors)

• ก่อตั้งขึ้นปี ค.ศ. 1966 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
• เป็นสมาคมดำน้ำสันทนาการที่ใหญ่ที่สุด มีเครือข่ายทั่วโลก
• ราคาบัตรสูงกว่าค่ายอื่น จึงทำให้คอร์สเรียนดำน้ำของ PADI มีราคาสูงตามไปด้วย

SSI (Scuba Schools International)

• ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1970 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา
• เป็นสมาคมดำน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองสำหรับการดำน้ำสันทนาการในประเทศไทย
• ราคาถูกกว่า บัตรของ PADI ทำให้คอร์สเรียนดำน้ำของ SSI อาจจะถูกกว่าคอร์สเรียนของ PADI
• การเรียนการสอนยืดหยุ่น เช่น ครูผู้สอนสามารถข้ามการทำสกิลที่นักเรียนถนัดไปทำก่อนได้ แล้วย้อนกลับไปทำสกิลที่ข้ามไป
• มีหลักสูตรเฉพาะทางให้เลือกเรียนหลากหลาย เช่นเดียวกับ PADI SSI ก็มี Specialty diving ที่น่าสนใจอยู่เยอะเช่น Nitrox , Deep Diving, Wreck Diving, Navigation เหมือนกัน

ลิงค์ไปยังสถาบันสอนดำน้ำสากลต่าง ๆ ในโลกนี้

BSAC (British Sub-Aqua Club)
NAUI (National Association of Underwater Instructors)
PADI (Professional Association of Diving Instructors)
SSI (Scuba Schools International)
CMAS (Confédération Mondiale des Activites Subaquatiques)
SDI (Scuba Diving International)
TDI (Technical Diving International)
IANTD (International Association of Nitrox and Technical Divers)
ACUC (American Canadian Underwater Certifications)
SAA (Sub-Aqua Association)
ANDI (American Nitrox Divers International)
IADS (International Association of Diving Schools)
ITDA (International Technical Diving Agency)
PDIC (Professional Diving Instructors Corporation)
PSAI (Professional SCUBA Association International)
RAID (Rebreather Association of International Divers)

ราคาค่าเรียนคอร์สดำน้ำเบื้องต้นหรือ Open Water

• กรุงเทพฯ โดยทั่วไปราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 13,000 – 15,000 บาท หากราคาต่ำกว่านี้ บางที่อาจไม่รวมค่าเรือออกสอบภาคทะเล ค่าบัตรดำน้ำ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าที่พัก
• ชุมพร ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 13,000-16,000 บาท รวมค่าเรือออกสอบภาคทะเล ค่าบัตรดำน้ำ แต่ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าอาหาร (ที่พักเป็นไปตามเงื่อนไขแต่ละโรงเรียน)
• เกาะเต่า ราคา 11,000 บาท รวมค่าเรือออกสอบภาคทะเล ค่าบัตรดำน้ำ แต่ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าอาหาร (ที่พักเป็นไปตามเงื่อนไขแต่ละโรงเรียน)
• ภูเก็ต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 14,000 – 16,000 บาท รวมค่าเรือออกสอบภาคทะเล ค่าบัตรดำน้ำ แต่ยังไม่รวมค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าที่พัก

เปรียบเทียบชื่อหลักสูตรสถาบันสอนดำน้ำต่าง ๆ 

จะเห็นว่าหลักสูตรการสอนดำน้ำของแต่ละสถาบันจะแตกต่างกันออกไปตามรายละเอียด ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้เรียนว่าจะเลือกเรียนดำน้ำสถาบันใด อย่างไรก็ตามแต่ละ สถาบันดำน้ำมีจุดประสงค์เดียวกันคือ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก ส่วนโรงเรียนสอนดำน้ำแต่ละที่นั้นมีประสบการณ์ สถานที่ และรายละเอียดที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้เรียนว่าอยากเรียนดำน้ำที่ไหนดี มีเวลาพอไหม หรือมีงบประมาณเท่าไร 

โดยสรุปการเรียนดำน้ำเบื้องต้นควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

• สถานที่เรียนควรใกล้บ้าน เดินทางสะดวก สะอาด
• ค่าใช้จ่ายไม่แพงเกินไปอยู่ที่ 13,000-15,000 บาท แล้วแต่โปรโมชั่น ณ ขณะนั้น
• หากออกสอบนอกเหนือจากที่ตกลงไว้เช่นไปสอบที่ทริปดำน้ำ มักจะมีค่าใช้จ่ายทริปดำน้ำเพิ่มด้วย
• มีอุปกรณ์ให้เช่าใช้ก่อน ราคาเรียนควรรวมค่าเช่าอุปกรณ์ไว้ด้วย
• ค่าเรียนมักจะไม่ได้รวมค่าที่พักวันสอบ และค่าเดินทางไปยังสถานที่สอบ
• ได้เรียนทฤษฎีการดำน้ำ อันตรายจากการดำน้ำ การปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเมื่อจะไปดำน้ำ
• ได้เรียนภาคปฏิบัติ และนักเรียนสามารถฝึกฝนปฏิบัติมากกว่า 2-3 ครั้งในสระน้ำ จนรู้สึกมีความมั่นใจมากพอก่อนจะไปออกสอบที่ทะเล
• สามารถสอบถาม และปรึกษาครูผู้สอนได้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพก่อนการเรียนดำน้ำ
• ครูผู้สอนไม่ชม หรือยกย่องสถาบันใด สถาบันหนึ่ง หรือให้ร้ายสถาบันสอนดำน้ำอื่น ๆ ที่ตนเองไม่ได้สังกัด
• บัตรดำน้ำ ณ ปัจจุบันหลาย ๆ สถาบัน มักจะออกเป็น แบบดิจิตอล ผ่านแอพพลิเคชั้นของแต่ละสถาบัน เพื่อลดขยะพลาสติก เวลาใช้งานแค่เปิดแอพพลิเคชั่น และแสดงบัตรก็ได้รับการยอมรับแล้ว
• บัตรดำน้ำไม่ได้หมายถึงว่าคุณจบมาจากระดับการศึกษาใด จะมีความสามารถในการดูแลตนเองได้ดีตลอดเวลาที่อยู่ใต้น้ำ หากเว้นการดำน้ำไป ควรกลับไปหาเวลาลง คอร์สทบทวนการดำน้ำ ก่อนไปทริปดำน้ำต่อไป เพื่อความปลอดภัย